ดูแลปัญหาสุขภาพเนื้อร้าย ด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดเซลล์ T พิฆาต

คณะนักวิจัย Operation BIM ได้คิดค้นสูตรสารสกัดธรรมชาติสูตรหนึ่งที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ด้วยการกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1 และ Th17 ในร่างกาย แล้ว Th1 และ Th17 ก็ไปเพิ่มอานุภาพ ของเซลล์ T พิฆาต (killer T cell) ซึ่งมีหน้าที่ตามธรรมชาติในการจัดการกับเซลล์ผิดปกติในร่างกาย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันบำบัดด้วยเซลล์ T พิฆาต ดูแลปัญหาสุขภาพเนื้อร้าย

จากผลการทดสอบภูมิคุ้มกันวิทยาเชิงคลีนิค โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวะการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO ช่วยให้ผู้ที่ใช้ มีเม็ดเลือดขาว Th1 เพิ่มขึ้น 2 เท่า และ Th17 เพิ่มขึ้น 5 เท่า ซึ่ง Th1 และ Th17 นี้ทำงานร่วมกันคือ หลั่งสารกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส หรือมะเร็ง และ กระตุ้น Killer T cell(เซลล์ T พิฆาต) ให้ทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO กระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1 และ Th17

Th17-1.png
0 %
Th17 เพิ่มขึ้น
Th1-1.png
0 %
Th1 เพิ่มขึ้น

เม็ดเลือดขาว Th1 และ Th17 ทำงานร่วมกัน กระตุ้น Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต)

+

กระตุ้น

Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต)

จะมีประสิทธิภาพในการกำจัดเนื้อร้ายมากขึ้น

Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต) ทำงานอย่างไร?​

เม็ดเลือดขาว “เซลล์ T พิฆาต” หรือ killer T cell เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีอยู่แล้วในร่างกาย ซึ่งเม็ดเลือดขาวชนิดนี้มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมภายในร่างกายของเรา

โดยประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว “Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต)” ขึ้นอยู่กับปริมาณของเม็ดเลือดขาว Th1 และเม็ดเลือดขาว Th17 การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือวิธีการภูมิคุ้มกันบำบัดจึงป้องกัน และจัดการมะเร็ง รวมถึงป้องกันและจัดการโรคติดเชื้อได้

ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO เป็นการใช้สารเสริมฤทธิ์ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง บัวบก ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่ากระตุ้น เม็ดเลือดขาว Th1 และเม็ดเลือดขาว Th17 ได้หลายร้อย % โดยทั้งคู่ กระตุ้นอานุภาพของเม็ดเลือดขาว “Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต)”

ช่วยให้ผู้มีปัญหาสุขภาพมะเร็ง แข็งแรงขึ้นจากมะเร็งทุกระยะ รวมทั้งผู้ที่ใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO ร่วมกับการทำคีโมฉายแสง
ช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว แข็งแรงสดชื่น ไม่อ่อนเพลียหลังคีโมฉายแสง

เริ่มพบสัญญาณของอาการเนื้อร้ายจาก พบว่ามีเลือดออกกระปริบกระปรอย กดไปที่หน้าท้องเลือดก็ยิ่งไหลเยอะใหญ่ พอไปตรวจที่โรงพยาบาลจึงรู้ว่า เป็นเนื้อร้ายปากมดลูก ระยะที่ 3-4
คุณกัญญ์ดริน
ผู้พิชิตเนื้อร้ายปากมดลูกลามไปกระดูกเชิงกราน
ตรวจพบว่า เป็นเนื้อร้ายต่อมน้ำเหลืองตอนนั้นเนื้อร้ายอยู่ในระยะที่ 4 แล้ว และลุกลามไปที่กระดูกขาขวา ทำให้กระดูกขาหัก ตอนนั้นผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่าต้องให้เคมีบำบัดเพื่อทำให้กระดูกที่หักติดกัน
คุณสุภัสสรา​
ผู้พิชิตเนื้อร้ายต่อมน้ำเหลืองลามไปกระดูกต้นขา​
ช่วงอายุ 30 ต้นๆ คุณอ้อ ได้ไปตรวจเช็คเนื้อร้ายเต้านม และครั้งนั้นก็ทำให้พบว่าเป็นเนื้อร้ายที่เต้านม แต่ตัดสินใจไม่ดูแลตามวิธีมาตรฐาน หลังจากนั้น 5 ปี ก้อนเนื้อเริ่มโตขึ้น จนวันนึงก้อนที่เป็นก็เกิดแตกออก
คุณอ้อ
ผู้พิชิตเนื้อร้ายเต้านม
ปี 2537 คุณหว่องรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งครั้งแรกคือเป็นที่ โพรงจมูก คุณหว่องเข้ารับการรักษาแบบผ่าตัด แต่ไม่ทำให้ดีขึ้น ทั้งยังเจ็บป่วยจากอาการหวัดอยู่ตลอดเวลา
คุณหว่อง ฮุยซุย
ผู้พิชิตมะเร็งโพรงจมูกลามไปต่อมน้ำเหลือง
ครั้งแรกที่ Mr.Nicholas ตรวจพบว่าเป็นเนื้อร้ายต่อมลูกหมาก ผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่าเป็นระยะลุกลามแล้ว ซึ่งตัวเลขค่า PSA ค่อนข้างน่าตกใจ คือสูงในระดับ 90 ขึ้นไปแล้ว เขาและครอบครัวกังวลใจกับมันมาก
Mr.Nicholas Chia
ผู้พิชิตเนื้อร้ายต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
คุณสุเทพ เป็นเนื้อร้ายที่ต่อมลูกหมากและลุกลามไปทำลายกระดูกสันหลัง จนทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีกล่างลงไป ทำให้เดินไม่ได้ และตั้งแต่หน้าท้องลงไปไม่มีความรู้สึกเลย ทำให้คุณสุเทพต้องนอนติดเตียงอยู่เกือบปี
คุณสุเทพ
ผู้พิชิตเนื้อร้ายต่อมลูกหมาก
ปัญหาสุขภาพเนื้อร้าย จัดการด้วย เซลล์ T พิฆาต(Killer T cell)
ปัญหาสุขภาพ HIV จัดการด้วย เซลล์ T พิฆาต(Killer T cell)
ปัญหาสุขภาพจากเชื้อระบาด จัดการด้วย เซลล์ T พิฆาต(Killer T cell)
Scroll to Top